ปัจจุบันไม่มีแผนจัดกิจกรรม
การส่งเสริมความเป็นพลเมืองกับการมีส่วนร่วมในการปกครองท้องถิ่นไทย ครั้งที่ 6
สัมมนาเชิงปฏิบัติการว่าด้วยการปกครองท้องถิ่นและการกระจายอำนาจ
การส่งเสริมความเป็นพลเมืองในประเทศไทย ถือว่ามีความสำคัญและมีความจำเป็นอย่างยิ่งเพื่อสร้างความรับผิดชอบ ความตระหนักในการมีส่วนร่วมในการพัฒนาประชาธิปไตยไทย โดยเฉพาะการปกครองในระดับท้องถิ่น ซึ่งถือว่าอยู่ใกล้ชิดกับประชาชนมากที่สุด และเห็นว่าการริเริ่มส่งเสริมความเป็นพลเมืองให้กับนักศึกษาในระดับอุดมศึกษาและผู้นำท้องถิ่น ก็จะช่วยให้บุคลากรเหล่านี้เป็นกลไกในกระบวนการมีส่วนร่วมในการพัฒนาการปกครองท้องถิ่นให้เข้มแข็งได้ ทั้งในแง่การส่งเสริมให้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งท้องถิ่น การมีส่วนร่วมในการพัฒนาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในปัจจุบันและอนาคต ซึ่งถือเป็นรากฐานประชาธิปไตยที่สำคัญที่สุดเช่นกัน
ภูมิรัฐศาสตร์และภูมิทัศน์ด้านความมั่นคงใน อินโด –แปซิฟิก: มุมมองทางทหารต่อความท้าทายใหม่และการปรับตัวในระดับภูมิภาค
มุมมองทางทหารเกี่ยวกับการแข่งขันเชิงยุทธศาสตร์และความมั่นคงในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก
การแข่งขันระหว่างมหาอำนาจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน กำลังเปลี่ยนแปลงภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก และสร้างแรงกดดันมากขึ้นต่อกรอบความมั่นคงในภูมิภาค การพัฒนากองทัพของจีนและการใช้ยุทธวิธีในเขตสีเทาได้เพิ่มความตึงเครียดทางทะเล ในขณะที่ประเด็นอื่นๆ เช่น ปฏิบัติการทางไซเบอร์ สงครามข้อมูล และเทคโนโลยีขั้นสูง ก็กำลังกำหนดนิยามใหม่ของการวางแผนด้านการป้องกันประเทศ พลวัตเหล่านี้ท้าทายศักยภาพของอาเซียนในการส่งมอบผลลัพธ์ด้านความมั่นคงที่เป็นรูปธรรม แต่ก็เน้นย้ำบทบาทของอาเซียนในฐานะเวทีสำคัญสำหรับการเจรจา สำหรับประเทศไทย นี่เป็นทั้งความเสี่ยงและโอกาสเชิงกลยุทธ์ การกำหนดลำดับความสำคัญด้านการป้องกันประเทศที่พร้อมปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ กลไกการจัดการวิกฤตที่แข็งแกร่งขึ้น และความร่วมมือที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นกับพันธมิตรในภูมิภาค จะมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการรักษาความพร้อมรับมือกับการแข่งขันทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ทวีความรุนแรงขึ้น
พหุขั้วอำนาจกับบทบาทของสหภาพยุโรปเชิงภูมิรัฐศาสตร์: ทางเลือกเชิงยุทธศาสตร์ต่ออาเซียนและไทย
ความสัมพันธ์ระหว่างสหภาพยุโรปและอาเซียนในบริบทของอินโด-แปซิฟิกท่ามกลางพหุขั้วอำนาจ: ผลกระทบต่อตำแหน่งทางยุทธศาสตร์ ความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจ และการปรับตัวด้านกฎระเบียบของประเทศไทย
การเปลี่ยนแปลงของภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกไปสู่การแข่งขันแบบพหุขั้วอำนาจได้เพิ่มความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ของอาเซียน และกระตุ้นให้สหภาพยุโรปดำเนินบทบาททางภูมิรัฐศาสตร์ในภูมิภาคมากขึ้น ประเทศไทยมองว่าสหภาพยุโรปเป็นพันธมิตรที่สามารถช่วยสร้างสมดุลระหว่างการแข่งขันของมหาอำนาจ พร้อมทั้งมอบโอกาสในด้านการค้า ความยืดหยุ่นของห่วงโซ่อุปทาน การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลและการเปลี่ยนผ่านสีเขียว และความร่วมมือด้านกฎระเบียบ ในขณะเดียวกัน แนวทางการกำหนดมาตรการและกฎระเบียบที่เข้มงวดของสหภาพยุโรปก็สร้างทั้งประโยชน์และความตึงเครียดให้กับรูปแบบความร่วมมือของอาเซียน ดังนั้น ในแง่หนึ่ง การมีส่วนร่วมของสหภาพยุโรปกับประเทศไทยจะมีประโยชน์ในทางเศรษฐกิจ ในขณะเดียวกัน ในอีกแง่ประเทศไทยก็ต้องรักษาความยืดหยุ่นเชิงยุทธศาสตร์และรักษาบทบาทศูนย์กลางของอาเซียนไว้ด้วย
ภูมิรัฐศาสตร์ทางไซเบอร์กับการสร้างความยืดหยุ่นทางดิจิทัลในยุคแห่งความเปราะบาง
ความท้าทายทางภูมิรัฐศาสตร์และข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อเสริมสร้างอธิปไตยดิจิทัล ห่วงโซ่อุปทาน ความมั่นคงทางไซเบอร์ และธรรมาภิบาลที่ดีของประเทศไทย
การแข่งขันเชิงกลยุทธ์ระหว่างมหาอำนาจได้ขยายเข้าสู่มิติของ “ภูมิรัฐศาสตร์ทางไซเบอร์” โดยมีเทคโนโลยี ข้อมูล และนวัตกรรมเป็นเครื่องมือสำคัญ ความเชื่อมโยงระหว่างเศรษฐกิจดิจิทัลกับภูมิรัฐศาสตร์โลก รวมถึงเป้าหมายของประเทศไทยในการขับเคลื่อนประเทศสู่ศูนย์กลางนวัตกรรมระดับภูมิภาค ภายใต้นโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลแห่งชาติ และยุทธศาสตร์ “ไทยแลนด์ 4.0” ทำให้ประเทศไทยต้องเผชิญกับความท้าทายด้านความมั่นคงไซเบอร์ เช่น การพึ่งพาเทคโนโลยีและนวัตกรรมจากต่างประเทศ และการแข่งขันเชิงกลยุทธ์ของมหาอำนาจที่ส่งผลต่ออธิปไตยทางเทคโนโลยี ในขณะเดียวกัน เนื่องจากประเทศไทยต้องปฏิบัติตามมาตรฐานการกำกับดูแลข้อมูลระหว่างประเทศมากขึ้นการบูรณาการที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นจะช่วยเสริมสร้างพันธกรณีของประเทศในการคุ้มครองสิทธิของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิทธิด้านความเป็นส่วนตัว
AI กับ อนาคตรัฐบาลดิจิทัล สู่การยกระดับมาตรฐานการบริการภาครัฐ
ข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อเสริมสร้างธรรมาภิบาลดิจิทัล และยกระดับคุณภาพและประสิทธิภาพของการให้บริการสาธารณะของภาครัฐ
แผนยุทธศาสตร์ปัญญาประดิษฐ์แห่งชาติ พ.ศ. 2565–2570 มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตและขับเคลื่อนเศรษฐกิจผ่านการใช้งาน AI อย่างมีธรรมาภิบาล เท่าเทียม และปลอดภัย แม้ประเทศไทยจะเดินหน้าตามแผนมา 2 ปีแล้ว แต่ยังเผชิญความท้าทายหลายด้าน ดังนั้นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และร่วมกันจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบายที่ชัดเจน ทั้งด้านการกำหนดนโยบาย งบประมาณ และโครงการนำร่อง จึงเป็นกลไกสำคัญในการเร่งสู่รัฐบาลดิจิทัลที่ขับเคลื่อนด้วย AI อย่างมีธรรมาภิบาล พร้อมสร้าง “ระบบนิเวศแห่งความไว้วางใจ” ที่เปิดให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการออกแบบและตรวจสอบการบริการของภาครัฐ
เพิ่มพูนขีดความสามารถของบุคลากรภาครัฐและภาคประชาชนท้องถิ่นในการให้บริการสาธารณะด้วยปัญญาประดิษฐ์
สู่การบริหารจัดการกิจการสาธารณะท้องถิ่นในยุคดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพด้วยองค์ความรู้ ทักษะ และจริยธรรม
ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา โลกได้ก้าวเข้าสู่ยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะการพัฒนาของ ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) ที่สามารถสร้างผลกระทบต่อการดำเนินชีวิต เศรษฐกิจ และการบริหารจัดการของรัฐอย่างกว้างขวาง หนึ่งในเทคโนโลยีที่ได้รับความสนใจอย่างมากคือ Generative AI หรือเอไอเชิงสร้างสรรค์ ทำให้หน่วยงานภาครัฐมีโอกาสนำมาประยุกต์ใช้เพื่อยกระดับคุณภาพการให้บริการสาธารณะในมิติที่หลากหลาย ทั้งด้านความรวดเร็ว ความถูกต้อง การเข้าถึง และความโปร่งใส อย่างไรก็ตาม แม้ Generative AI จะมีศักยภาพสูงในการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพงานราชการ แต่การนำเทคโนโลยีดังกล่าวมาใช้ในภาครัฐยังคงเผชิญกับความท้าทายหลายประการ ไม่ว่าจะเป็น ความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัล ความเข้าใจในการใช้งานของบุคลากร ความมั่นคงและความปลอดภัยของข้อมูล ตลอดจนประเด็นด้านจริยธรรมและความรับผิดชอบต่อสังคม หากขาดความรู้ ความเข้าใจ และทักษะที่ถูกต้อง การใช้งาน AI อาจนำไปสู่ความผิดพลาด ข้อมูลที่บิดเบือน หรือแม้แต่กระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชนต่อหน่วยงานของรัฐ ดังนั้น จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่บุคลากรภาครัฐและผู้นำท้องถิ่นจะต้องได้รับการอบรมและพัฒนาขีดความสามารถอย่างเหมาะสม
ภาครัฐระบบเปิดและนวัตกรรมทางนโยบายเพื่อพลเมืองและการบริหารจัดการท้องถิ่น
เวิร์คชอปพลเมืองเคลื่อนรัฐครั้งที่ 4 ว่าด้วยการจัดการขยะทะเลอย่างมีส่วนร่วมบริเวณปากแม่น้ำ
ทิศทางการพัฒนาระบบราชการไทย พ.ศ. 2566-2570 มุ่งสู่การเป็น "ภาครัฐที่ล้ำหน้า" (Digital & Innovative Government) และ "ภาครัฐที่เปิดกว้าง" (Open Government) โดยเน้นการมีระบบบริหารราชการที่ทันสมัย น่าเชื่อถือ มีประสิทธิภาพ สามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างแท้จริง สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (สำนักงาน ก.พ.ร.) ในฐานะหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบการขับเคลื่อนการภาครัฐระบบเปิดและการมีส่วนร่วม ได้ศึกษาและพัฒนารูปแบบ “ระบบนิเวศภาครัฐระบบเปิดและการมีส่วนร่วมอย่างมีความหมาย” (Open Government and Meaningful Participation Ecosystem) เพื่อเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการขับเคลื่อนภาครัฐอย่างครบวงจรและทุกมิติ ประกอบด้วย 8 องค์ประกอบสำคัญ ได้แก่ 1) การเปิดเผยข้อมูลของภาครัฐ 2) การมีนโยบายและกฎหมายที่เอื้อต่อการเปิดระบบราชการ 3) การสร้างภาคีเครือข่ายความร่วมมือ 4) การสร้างแรงจูงใจ 5) การสนับสนุนองค์ความรู้และทรัพยากร 6) การพัฒนาเทคโนโลยี นวัตกรรม และโครงสร้างพื้นฐาน 7) การติดตามประเมินผล และ 8) การสร้างวัฒนธรรมองค์กร
เสริมสร้างความรู้และประสบการณ์เกี่ยวกับการเมืองการปกครองระบอบประชาธิปไตย
สัมมนาเชิงปฏิบัติการเพื่อออกแบบและผลิตสื่อประชาสัมพันธ์เทคโนโลยีเสมือนจริงและคู๋มือในการเข้าเยี่ยมชมและศึกษาดูงานที่รัฐสภา
KASSID Annual Meeting 2025
การขับเคลื่อนการคุ้มครองทางสังคมของประเทศไทยในช่วงความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ
ปี พ.ศ. 2568 เป็นการก้าวเข้าสู่ปีที่ 5 ของการมอบทุนการศึกษา Konrad Adenauer Scholarship for Social and Innovative Development (KASSID) โดยตลอดช่วงเวลา 5 ปีที่ผ่านมา มูลนิธิฯ ได้มอบทุนให้นักศึกษา 3 รุ่น รวมทั้งหมด 26 คนจากทั่วประเทศ เพื่อสานต่อเป้าหมายของทุนการศึกษา มูลนิธิฯ จึงจะจัดกิจกรรมตลอดหนึ่งวันสำหรับทั้งนักเรียนทุน KASSID รุ่นปัจจุบันและศิษย์เก่า โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ต่อเนื่อง แลกเปลี่ยนมุมมอง และเสริมสร้างเครือข่ายนักเรียนทุน
MY BETTER COUNTRY HACKATHON #14
ขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็นรัฐบาลระบบเปิดและส่งเสริมความเข้มแข็งของภาคประชาชนในกระบวนการกำหนดนโยบายระดับชาติ
ในปีนี้ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ หรือสำนักงานก.พ.ร. ด้วยการสนับสนุนของมูลนิธิคอนราด อาเดนาวร์ จัดกิจกรรม MY BETTER COUNTRY HACKATHON ครั้งที่ 14 เพื่อกระตุ้นให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายการขับเคลื่อนภาครัฐไทยไปสู่การเป็นภาครัฐแบบเปิดเพิ่มมากขึ้น กิจกรรมในครั้งนี้จะเป็นการระดมความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาประเทศจากภาคประชาชน โดยเปิดให้ประชาชนและภาคส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเข้ามามีส่วนร่วมในการระดมความคิดเห็น แนวทาง ข้อเสนอแนะที่เป็นรูปธรรมในการพัฒนาระบบราชการที่อยู่ในความสนใจของสังคม โดยปีนี้มุ่งเน้นประเด็นเกี่ยวกับการพัฒนากระบวนการให้บริการภาครัฐเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ กิจกรรมนี้คาดหวังว่าจะช่วยส่งเสริมให้เกิดระบบการบริหารกิจการบ้านเมืองแบบมีส่วนร่วมระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน และภาคส่วนต่าง ๆ สู่การปฏิบัติให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมในระยะยาว อันจะเกิดผลดีต่อการบริหารราชการแผ่นดินตามหลักธรรมาภิบาล และส่งเสริมให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่นในการปฏิบัติงานของภาครัฐเพิ่มมากขึ้น